Lysaght

โครงหลังคาสำเร็จรูป

โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® – Lysaght

โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® – Lysaght

โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® เป็นโครงถักหลังคา หรือโครงทรัส (Truss) คุณภาพสูงจากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงถักหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบออกแบบโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป ทำให้โครงหลังคา SMARTRUSS® มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนก่อสร้างโดยรวมเพราะไม่จำเป็นต้องตัดวัสดุหน้างานและทาสีกันสนิม โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® จึงช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และต้นทุน

โครงถักหลังคา คืออะไร?

โครงถักหลังคา คืออะไร?

โครงถัก หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Truss คือ โครงสร้างซึ่งประกอบขึ้นโดยการยึดปลายทั้งสองของโครงหลังคาต่อกันเพื่อส่งแรงผ่านระหว่างกัน โดยอาจยึดติดกันโดยการเชื่อมหรือใช้สลักเกลียว โครงสร้างที่นิยมทำเป็นโครงถัก ได้แก่ สะพาน และโครงหลังคา จึงเรียกกันว่า โครงถักหลังคา โดยรูปทรงพื้นฐานของโครงสร้าง Truss จะเป็นรูปสามเหลี่ยมประกอบด้วยองค์อาคารอย่างน้อย 3 ท่อนที่ยึดปลายต่อกัน
สำหรับโครงหลังคาที่มีความยาวเพิ่มมากขึ้น จะมีการทำเป็นโครงถักที่ประกอบไปด้วย จันทัน, ขื่อ, ท่อนยึดดิ่ง, ท่อนยึดทแยง โดยแต่ละส่วนจะทำหน้าที่ต่างกันไป คือ จันทันรับแรงอัด ขื่อรับแรงดึง เป็นต้น แม้โครงถักจะเป็นโครงสร้าง Truss ที่ดูมีน้ำหนักเบา แต่โครงถักนั้นสามารถรับน้ำหนักได้มากทีเดียว และสามารถออกแบบรูปทรงได้อย่างหลากหลาย

โครงถักหลังคาหรือโครงสร้าง Truss แบบต่าง ๆ

โครงสร้าง Truss มีมากมายหลายรูปแบบ มีความสวยงาม และมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าอยากให้รูปแบบหลังคาของอาคารนั้น ๆ ออกมาเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่มักจะเห็นโครงสร้าง Truss แบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กันมีดังนี้

1. โครงถักหลังคาแบบโฮว์

โครงถักแบบโฮว์ หรือ Howe Truss ส่วนที่เป็นจันทันจะมีลักษณะเอียงเป็นจั่วสองฝั่งเท่ากัน โดยมีขื่อวางเป็นแนวราบ มองแล้วจะเหมือนรูปทรงสามเหลี่ยม มีท่อนยึดทแยงเข้าหาตรงกึ่งกลาง

2. โครงถักหลังคาแบบโฮว์ยกระดับ

โครงถักแบบโฮว์ยกระดับ จะมีลักษณะคล้ายกับโครงถักแบบโฮว์ แต่จะเป็นโครงสร้างที่มีโครงหลังคาช่วงยาวที่ยาวมากขึ้น ด้วยการยกระดับของจันทันให้สูงขึ้นไปอีกผ่านจุดค้ำยันตามความต้องการในการใช้งาน ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงหลังคาสำเร็จรูปในโรงงาน หรือโกดังเก็บสินค้า เป็นต้น

3. โครงถักคอร์ดเอียงขนาน 

โครงถักคอร์ดเอียงขนาน

โครงถักคอร์ดเอียงขนาน

โครงถักคอร์ดเอียงขนาน จะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย ๆ จากตัวขื่อเอียงขนานกับจันทัน ทำให้มีช่องว่างความสูงมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณใต้หลังคามากยิ่งขึ้น สามารถวางโครงถักคอร์ดเอียงขนานได้ 2 รูปแบบคือ แบบแนวราบ (Flat Truss) และแบบแนวเอียง (Sloping Flat Truss)

4. โครงถักแบบเอียงตามมุม

โครงถักแบบเอียงตามมุม (Dual Pitch) จะมีลักษณะของจันทันที่เอียงชันไปทางด้านหน้า แล้วค่อย ๆ ลาดเทลงยาวไปทางด้านหลัง โดยจะมีการค้ำยันในแนวดิ่งและแนวเอียงตามมุมต่าง ๆ เพื่อการรับน้ำหนัก ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงหลังคาสำเร็จรูปอาคารตึกแถว

5. โครงถักแบบโค้ง

โครงถักแบบโค้ง (Curved Truss) เป็นโครงสร้าง Truss ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีการใช้แผ่นเหล็กรีดลอนมุงหลังคาที่สามารถดัดให้มีความโค้งได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงสร้างของอาคารขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรืออาคารที่มีโครงสร้างซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นต้น

 

วัสดุที่นิยมใช้เป็นโครงถักหลังคา

  • โครงถักหลังคาจากเหล็กรูปพรรณ มักใช้กับโกดัง คลังสินค้าขนาดใหญ่ หรือโรงงาน
  • โครงถักเหล็กชุบกัลวาไนซ์ มักใช้กับโครงถักหลังคาบ้านที่ไม่ได้มีช่วงกว้างมากนัก
  • โครงถักไม้ มักใช้กับโครงหลังคาที่มีช่วงกว้างน้อย

 

โครงถักหลังคาควรใช้เหล็กขนาดไหนบ้าง?

สำหรับโครงสร้างหลังคาควรใช้เป็นเหล็กกล่อง เนื่องจากมีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดี โดยขนาดเหล็กจะเป็นไปตามระยะยื่นของหลังคา ขนาดที่แนะนำคือ เหล็กกล่อง 4 x 2 นิ้ว หนา 3.0 มม. ควรใช้เป็นเหล็กเต็มเท่านั้น ไม่ควรบางไปกว่านี้ และแปเหล็กกล่อง ขนาด 1.5 x 1.5 นิ้ว หรือไม่ต่ำกว่า 1 x 1 นิ้ว เช่น 

  • ระยะยื่นหลังคา 3 เมตร ควรใช้เหล็กกล่องขนาด 4 x 2 นิ้ว (หรือ 3 x 2 นิ้ว)
  • ระยะยื่นหลังคา 4 เมตร ควรใช้เหล็กกล่องขนาด 4 x 2 นิ้ว
  • ระยะยื่นหลังคา 5 เมตร ควรใช้เหล็กกล่องขนาด 5 x 2 นิ้ว

 

โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® จากไลสาจท์ 

โครงหลังคาสำเร็จรูป

การเลือกโครงทรัสหรือโครงถักหลังคาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน จะทำให้โครงสร้างหลังคาของคุณแข็งแรง คงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่า เลือก SMARTRUSS® โครงหลังคาสำเร็จรูปคุณภาพสูงจากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้โครงถักหลังคา SMARTRUSS® หรือโครงทรัส (Truss) มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนเพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมเหล็กหน้างาน ติดตั้งง่ายรวดเร็วด้วยระบบการยิงสกรู มาพร้อมกันรับประกันสูงสุดถึง 30 ปี

 

ชิ้นส่วนสำคัญของโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® เพื่อโครงสร้างที่แข็งแรง

  • เหล็กตัว C C75, C100 ส่วนประกอบหลักของโครงสร้าง Truss
  • แปเหล็ก TS40 รองรับวัสดุมุงหลังคา สำหรับยึดโครงสร้าง Truss ไว้ด้วยกัน
  • คานปูนและคานเหล็ก สามารถติดตั้งกับโครงสร้างคานหลังคาที่ทำจากเหล็กและคอนกรีตได้
  • สกรู ใช้สำหรับยึดโครงสร้างของทรัส และยึดแปกับตัวทรัส
  • โบลต์ ใช้สำหรับติดตั้ง SMARTRUSS® กับโครงสร้างคอนกรีต
  • เพลท อุปกรณ์ประกอบการติดตั้งเพื่อความแข็งแรงและถูกต้องตามมาตรฐาน
  • โครงหลังคา SMARTRUSS® สามารถออกแบบให้รองรับวัสดุมุงหลังคาทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้องหลังคา LYSAGHT® กระเบื้องคอนกรีต กระเบื้องลอนคู่ กระเบื้องซีเมนต์ กระเบื้องดินเผา
  • เชิงชายไม้ เชิงชายเหล็ก สามารถติดตั้งด้วยวิธีเดิมของช่าง หรือใช้อุปกรณ์เสริมของบริษัทได้

 

เปรียบเทียบโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® กับโครงหลังคาเหล็กแบบเดิม (เหล็กดำ)

 

โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS®

  • วัสดุ : เหล็กกล้ากำลังสูง G550 (Fy 5,500 kg/cm2) และ TrueCore™️
  • ส่วนประกอบโครงสร้าง : C75, C100, TS40
  • คุณภาพวัสดุ : คุณภาพแน่นอน ผลิตได้มาตรฐานทุกชิ้นส่วน ผ่านมาตรฐานการออกแบบและรับรองโดยวิศวกร
  • คุณภาพการผลิต : ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001 : 2008 ผลิตตามความยาวจริงจากการออกแบบ และมีหมายเลขชิ้นงานกำกับทุกชิ้นส่วน
  • การออกแบบ : ใช้โปรแกรมออกแบบ Supracad และ Endurocad ที่มีความแม่นยำ รวมถึงทีมวิศวกรออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญสูง
  • การจัดการโครงการ : ประกอบหน้างานด้วยระบบสกรู
  • การป้องกันสนิม : TrueCore™️ เป็นเหล็กเคลือบโลหะผสมระหว่าง ซิงค์ 45% - อะลูมิเนียม 55% AZ150 และเรซิ่นสีฟ้า
  • การรับประกันสินค้า : รับประกันคุณภาพสูงสุด 30 ปี
  • ปริมาณเหล็กโดยเฉลี่ย : 6-8 kg/m2
  • ระบบการติดตั้ง : สกรูคุณภาพสูงจากบลูสโคป ไลสาจท์ ตามมาตรฐาน AS3566 Class 3
  • คุณภาพการติดตั้ง : ติดตั้งและควบคุมการผลิตได้ง่ายกว่า ใช้ระยะเวลาประมาณ​ 2 - 5 วัน
  • วัสดุมุง : ใช้ได้กับวัสดุมุงหลังคาทุกประเภท ได้แก่ หลังคาเหล็ก, กระเบื้อง, ดินเผา, เซรามิก หรือ ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นต้น

โครงหลังคาแบบเดิม (เหล็กดำ)

  • วัสดุ : เหล็กเหนียว (Fy 3,000 kg/cm2)
  • ส่วนประกอบโครงสร้าง : Lip Channel C100, C125, C150, C200 หรือ เหล็กฉาก Angel Steel หรือ เหล็กกล่อง Rectangular Hollow Section (RHS)
  • คุณภาพวัสดุ : ไม่สม่ำเสมอ เนื่องจากผู้ผลิตมีจำนวนมาก และเหล็กในท้องตลาดมีน้ำหนักต่อเมตรไม่ได้มาตรฐานที่ออกแบบ
  • คุณภาพการผลิต : คุณภาพไม่แน่นอน และผลิตตามความยาวของโรงงาน ทำให้ต้องตัดชิ้นส่วนเมื่อนำมาประกอบและมีเศษวัสดุ
  • การออกแบบ : คำนวณแบบ Manual
  • การจัดการโครงการ : ประกอบหน้างานด้วยระบบเชื่อม
  • การป้องกันสนิม : ทาสีกันสนิม
  • การรับประกันสินค้า : ไม่มี
  • ปริมาณเหล็กโดยเฉลี่ย : 2-15 kg/m2
  • ระบบการติดตั้ง : การเชื่อม
  • คุณภาพการติดตั้ง : ติดตั้งยากและต้องการช่างเชื่อมที่มีฝีมือ ควบคุมคุณภาพยากจากการเชื่อม และติดตั้งได้ช้ากว่า
  • วัสดุมุง : ใช้ได้กับวัสดุมุงหลังคาทุกประเภท ได้แก่ หลังคาเหล็ก, กระเบื้อง, ดินเผา, เซรามิก หรือ ไฟเบอร์ซีเมนต์ เป็นต้น

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโครงถักหลังคา โครงหลังคาสำเร็จรูป

 

1. โครงสร้าง Truss มีกี่แบบ?

โครงสร้าง Truss แบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน มีดังนี้

  1. โครงถักหลังคาแบบโฮว์
  2. โครงถักหลังคาแบบโฮว์ยกระดับ
  3. โครงถักคอร์ดเอียงขนาน
  4. โครงถักแบบเอียงตามมุม
  5. โครงถักแบบโค้ง

2. หน้าที่สำคัญของโครงถัก (Truss)?

โครงถัก หรือ โครงสร้าง Truss เป็นโครงสร้างเหล็กที่มีส่วนสำคัญในการรองรับน้ำหนักได้มากกว่าโครงสร้างแบบอื่น ๆ เป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงสูง สามารถทนแรงกด แรงดึง และแรงบิดได้ จึงช่วยต้านภัยจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาทำเป็นโครงสร้างหลังคา โครงสร้างสะพาน และป้ายโฆษณา

3. โครงสร้างเหล็กคืออะไร? 

โครงสร้างเหล็กใช้สำหรับโครงสร้างเกือบทุกประเภท เป็นโครงสร้างที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนเหล็กรูปพรรณ ผลิตออกมาให้มีหน้าตัดเป็นรูปลักษณะต่าง ๆ ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ในงานโครงสร้าง เช่น

  • I-Beam (หน้าตัดตัว I)
  • Z-Shape (ลักษณะเหมือนตัว Z)
  • HSS-Shape (หน้าตัดกลวง รวมถึงทรงสี่เหลี่ยม มุมฉาก วงกลม(ท่อ) และหน้าตัดวงรี)
  • Angle (หน้าตัดตัว L)
  • โครงสร้างรางน้ำ, ช่อง (หน้าตัดตัว C หรือคานรูปตัว C)
  • Tee (หน้าตัดตัว T)
  • ระบบรางรถไฟ 
  • Bar (หน้าตัดสี่เหลี่ยมมุมฉาก)
  • Rod (มีลักษณะเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยม)
  • Plate (แผ่นโลหะหนากว่า 4 มิลลิเมตร)
  • ไม้เปิดเว็บ

4. โครงถักใช้เหล็กอะไร?

โครงถักโดยทั่วไปทำจากเหล็กและไม้เนื้อแข็ง แต่โครงถักส่วนใหญ่มักทำมาจากเหล็ก เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า มีความยืดหยุ่นและเหนียว ทนทานต่อการสึกหรอสูงจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยทั่วไปแล้วจะนิยมใช้เหล็กรูปพรรณ เช่น เหล็กเอชบีม (H-Beam) เหล็กไอบีม (I-Beam) เหล็กยูบีม (U-Beam) และเหล็กกล่อง (Box Beam) เป็นต้น

5. จันทันคือส่วนไหนของโครงถักหลังคา

จันทัน (Rafter) เป็นส่วนที่วางเอียงลาดไปตามลักษณะของหลังคา มีทั้งแบบที่วางพาดอยู่บนหัวเสา และแบบที่ไม่ได้วางพาดบนหัวเสา โดยทั่วไปจันทันจะวางเป็นระยะทุกๆ 1 เมตร โดยระยะห่างของจันทันจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของวัสดุที่จะนำมามุงหลังคา และระยะของแปด้วย

6. จันทันมีหน้าที่อะไร

จันทันมีหน้าที่สำคัญในการรับแรงอัด รองรับน้ำหนักจากแปซึ่งรองรับวัสดุที่จะนำมามุงหลังคาอีกทีหนึ่ง และช่วยยึดโครงสร้างของหลังคาให้มั่นคงแข็งแรง

7. เลือกโครงหลังคาเหล็กสำหรับงานบ้านแบบไหนดี?

ต้องการประหยัดเวลาและงบประมาณ เลือกโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® จากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนเพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมเหล็กหน้างาน ติดตั้งง่ายรวดเร็ว

4 เหตุผลที่ควรเลือกโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS®

Bluescope Lysaght พร้อมให้บริการติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® ครบวงจร

 

ทีมงานขายและวิศวกรพร้อมให้คำปรึกษาและบริการออกแบบ

เรามีบริการให้คำปรึกษากับลูกค้า และผู้สนใจทั่วไป พร้อมรับออกแบบโครงถักหลังคาให้เหมาะสมกับบ้านและอาคารของลูกค้า บริการออกแบบส่วนโครงสร้างที่เกี่ยวข้องตามความต้องการ เช่น โครงทรัสหลังคา อย่างครบวงจร

  • บริการให้คำปรึกษา
  • บริการออกแบบโครงหลังคาให้เหมาะสมกับบ้านและอาคาร
  • บริการออกแบบส่วนโครงสร้างที่เกี่ยวข้อง

 

ทีมติดตั้งมืออาชีพ

  • เรามีทีมติดตั้งคุณภาพสูงที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งโครงหลังคามาอย่างยาวนาน ทีมติดตั้งผ่านการฝึกอบรมและมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่องจนได้รับการรับรองมาตรฐานจากทางบริษัทก่อนบริการลูกค้า

 

ศูนย์ฝึกอบรมของ SMARTRUSS®

  • เรามีบริการอบรมรายละเอียดของสินค้าและวิธีการติดตั้งให้กับผู้ที่สนใจ โดยมีบริการอบรมทั้งในและนอกสถานที่

Product used in

MENU