โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® เป็นโครงถักหลังคา หรือโครงทรัส (Truss) คุณภาพสูงจากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงถักหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ระบบออกแบบโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูป ทำให้โครงหลังคา SMARTRUSS® มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนก่อสร้างโดยรวมเพราะไม่จำเป็นต้องตัดวัสดุหน้างานและทาสีกันสนิม โครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® จึงช่วยให้คุณประหยัดทั้งเวลา แรงงาน และต้นทุน
โครงถัก หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Truss คือ โครงสร้างซึ่งประกอบขึ้นโดยการยึดปลายทั้งสองของโครงหลังคาต่อกันเพื่อส่งแรงผ่านระหว่างกัน โดยอาจยึดติดกันโดยการเชื่อมหรือใช้สลักเกลียว โครงสร้างที่นิยมทำเป็นโครงถัก ได้แก่ สะพาน และโครงหลังคา จึงเรียกกันว่า โครงถักหลังคา โดยรูปทรงพื้นฐานของโครงสร้าง Truss จะเป็นรูปสามเหลี่ยมประกอบด้วยองค์อาคารอย่างน้อย 3 ท่อนที่ยึดปลายต่อกัน
สำหรับโครงหลังคาที่มีความยาวเพิ่มมากขึ้น จะมีการทำเป็นโครงถักที่ประกอบไปด้วย จันทัน, ขื่อ, ท่อนยึดดิ่ง, ท่อนยึดทแยง โดยแต่ละส่วนจะทำหน้าที่ต่างกันไป คือ จันทันรับแรงอัด ขื่อรับแรงดึง เป็นต้น แม้โครงถักจะเป็นโครงสร้าง Truss ที่ดูมีน้ำหนักเบา แต่โครงถักนั้นสามารถรับน้ำหนักได้มากทีเดียว และสามารถออกแบบรูปทรงได้อย่างหลากหลาย
โครงสร้าง Truss มีมากมายหลายรูปแบบ มีความสวยงาม และมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบว่าอยากให้รูปแบบหลังคาของอาคารนั้น ๆ ออกมาเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่มักจะเห็นโครงสร้าง Truss แบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กันมีดังนี้
โครงถักแบบโฮว์ หรือ Howe Truss ส่วนที่เป็นจันทันจะมีลักษณะเอียงเป็นจั่วสองฝั่งเท่ากัน โดยมีขื่อวางเป็นแนวราบ มองแล้วจะเหมือนรูปทรงสามเหลี่ยม มีท่อนยึดทแยงเข้าหาตรงกึ่งกลาง
โครงถักแบบโฮว์ยกระดับ จะมีลักษณะคล้ายกับโครงถักแบบโฮว์ แต่จะเป็นโครงสร้างที่มีโครงหลังคาช่วงยาวที่ยาวมากขึ้น ด้วยการยกระดับของจันทันให้สูงขึ้นไปอีกผ่านจุดค้ำยันตามความต้องการในการใช้งาน ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงหลังคาสำเร็จรูปในโรงงาน หรือโกดังเก็บสินค้า เป็นต้น
โครงถักคอร์ดเอียงขนาน จะมีลักษณะที่สังเกตได้ง่าย ๆ จากตัวขื่อเอียงขนานกับจันทัน ทำให้มีช่องว่างความสูงมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยบริเวณใต้หลังคามากยิ่งขึ้น สามารถวางโครงถักคอร์ดเอียงขนานได้ 2 รูปแบบคือ แบบแนวราบ (Flat Truss) และแบบแนวเอียง (Sloping Flat Truss)
โครงถักแบบเอียงตามมุม (Dual Pitch) จะมีลักษณะของจันทันที่เอียงชันไปทางด้านหน้า แล้วค่อย ๆ ลาดเทลงยาวไปทางด้านหลัง โดยจะมีการค้ำยันในแนวดิ่งและแนวเอียงตามมุมต่าง ๆ เพื่อการรับน้ำหนัก ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงหลังคาสำเร็จรูปอาคารตึกแถว
โครงถักแบบโค้ง (Curved Truss) เป็นโครงสร้าง Truss ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีการใช้แผ่นเหล็กรีดลอนมุงหลังคาที่สามารถดัดให้มีความโค้งได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่นิยมใช้เป็นโครงสร้างของอาคารขนาดใหญ่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรืออาคารที่มีโครงสร้างซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เป็นต้น
สำหรับโครงสร้างหลังคาควรใช้เป็นเหล็กกล่อง เนื่องจากมีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้ดี โดยขนาดเหล็กจะเป็นไปตามระยะยื่นของหลังคา ขนาดที่แนะนำคือ เหล็กกล่อง 4 x 2 นิ้ว หนา 3.0 มม. ควรใช้เป็นเหล็กเต็มเท่านั้น ไม่ควรบางไปกว่านี้ และแปเหล็กกล่อง ขนาด 1.5 x 1.5 นิ้ว หรือไม่ต่ำกว่า 1 x 1 นิ้ว เช่น
การเลือกโครงทรัสหรือโครงถักหลังคาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน จะทำให้โครงสร้างหลังคาของคุณแข็งแรง คงทน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่า เลือก SMARTRUSS® โครงหลังคาสำเร็จรูปคุณภาพสูงจากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้โครงถักหลังคา SMARTRUSS® หรือโครงทรัส (Truss) มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนเพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมเหล็กหน้างาน ติดตั้งง่ายรวดเร็วด้วยระบบการยิงสกรู มาพร้อมกันรับประกันสูงสุดถึง 30 ปี
โครงสร้าง Truss แบบต่าง ๆ ที่นิยมใช้กัน มีดังนี้
โครงถัก หรือ โครงสร้าง Truss เป็นโครงสร้างเหล็กที่มีส่วนสำคัญในการรองรับน้ำหนักได้มากกว่าโครงสร้างแบบอื่น ๆ เป็นโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาแต่มีความแข็งแรงสูง สามารถทนแรงกด แรงดึง และแรงบิดได้ จึงช่วยต้านภัยจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี จึงนิยมนำมาทำเป็นโครงสร้างหลังคา โครงสร้างสะพาน และป้ายโฆษณา
โครงสร้างเหล็กใช้สำหรับโครงสร้างเกือบทุกประเภท เป็นโครงสร้างที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนเหล็กรูปพรรณ ผลิตออกมาให้มีหน้าตัดเป็นรูปลักษณะต่าง ๆ ที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ในงานโครงสร้าง เช่น
โครงถักโดยทั่วไปทำจากเหล็กและไม้เนื้อแข็ง แต่โครงถักส่วนใหญ่มักทำมาจากเหล็ก เนื่องจากมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่า มีความยืดหยุ่นและเหนียว ทนทานต่อการสึกหรอสูงจึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยทั่วไปแล้วจะนิยมใช้เหล็กรูปพรรณ เช่น เหล็กเอชบีม (H-Beam) เหล็กไอบีม (I-Beam) เหล็กยูบีม (U-Beam) และเหล็กกล่อง (Box Beam) เป็นต้น
จันทัน (Rafter) เป็นส่วนที่วางเอียงลาดไปตามลักษณะของหลังคา มีทั้งแบบที่วางพาดอยู่บนหัวเสา และแบบที่ไม่ได้วางพาดบนหัวเสา โดยทั่วไปจันทันจะวางเป็นระยะทุกๆ 1 เมตร โดยระยะห่างของจันทันจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของวัสดุที่จะนำมามุงหลังคา และระยะของแปด้วย
จันทันมีหน้าที่สำคัญในการรับแรงอัด รองรับน้ำหนักจากแปซึ่งรองรับวัสดุที่จะนำมามุงหลังคาอีกทีหนึ่ง และช่วยยึดโครงสร้างของหลังคาให้มั่นคงแข็งแรง
ต้องการประหยัดเวลาและงบประมาณ เลือกโครงหลังคาสำเร็จรูป SMARTRUSS® จากไลสาจท์ ให้ความทนทานพร้อมคุณภาพ คำนวณชิ้นส่วนโครงหลังคาด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ทำให้มีสัดส่วนที่ถูกต้องแม่นยำทุกชิ้น ประหยัดต้นทุนเพราะไม่จำเป็นต้องเชื่อมเหล็กหน้างาน ติดตั้งง่ายรวดเร็ว
เรามีบริการให้คำปรึกษากับลูกค้า และผู้สนใจทั่วไป พร้อมรับออกแบบโครงถักหลังคาให้เหมาะสมกับบ้านและอาคารของลูกค้า บริการออกแบบส่วนโครงสร้างที่เกี่ยวข้องตามความต้องการ เช่น โครงทรัสหลังคา อย่างครบวงจร
ทีมติดตั้งมืออาชีพ
ศูนย์ฝึกอบรมของ SMARTRUSS®
เจ้าของบ้านรายนี้เลือกผลิตภัณฑ์ Lysaght สำหรับการก่อสร้างเสาค้ำ คานหลังคา แผ่นหลังคา กรอบผนัง และโครงหลังคาสำหรับบ้านของตน