Lysaght

โซลูชันของไลสาจท์

หลังคาฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน

หลังคาฉนวนกันความร้อน แผ่นฉนวนกันความร้อน

บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป ไลสาจท์(ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายหลังคาฉนวนกันความร้อนและแผ่นฉนวนกันความร้อน ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญของโรงงานอุตสาหกรรม อาคาร หรือโกดังต่าง ๆ ที่ต้องการมีห้องควบคุมอุณหภูมิสำหรับการกันความร้อน และกักเก็บความเย็น ช่วยประหยัดการใช้พลังงาน รวมถึงป้องกันความชื้นและป้องกันฝุ่นผง ให้กับห้องที่ต้องการ พร้อมเสนอแนวทางในการสร้างสำหรับโรงงานผลิตอาหาร โรงงานยา โรงงานรถยนต์ โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ด้วยเทคนิคเฉพาะโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจาก LYSAGHT

หลังคาฉนวนกันความร้อน คืออะไร?

หลังคาฉนวนกันความร้อนเป็นวัสดุฉนวนที่ใช้ในการสกัดกั้นการส่งผ่านความร้อนจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานในการรักษาอุณหภูมิภายในได้มาก โดยแผ่นฉนวนกันความร้อนสามารถนำมาใช้ในเชิงอุตสาหกรรมได้หลายรูปแบบ เช่น แผ่นหลังคาฉนวนกันความร้อน แผ่นผนังฉนวนกันความร้อน แผ่นฝ้าฉนวนกันความร้อน แผ่นฝ้าเพดาน หรือนำมาทำเป็นประตูฉนวนกันความร้อนสำหรับอุตสาหกรรมห้องเย็น ห้องไลน์ผลิต หรือโกดัง โรงงาน หรือศูนย์กระจายสินค้า เป็นต้น

 

 

ประโยชน์ของแผ่นฉนวนกันความร้อน

แผ่นฉนวนกันความร้อนช่วยลดการถ่ายเทความร้อนระหว่างสองสภาพแวดล้อม ภายในอาคารและภายนอกอาคาร เนื่องจากวัสดุฉนวนจะคอยสกัดกั้นการส่งผ่านความร้อนจากหลังคาให้เหลือน้อยที่สุด จึงช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้คงที่อยู่เสมอ ทำให้สภาพแวดล้อมภายในอาคารสะดวกสบายตลอดเวลา ส่งผลให้มีการใช้พลังงานในการทำความร้อนหรือทำความเย็นลดน้อยลง จึงช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เลือกหลังคาฉนวนกันความร้อนแบบไหนดี?

หลังคาฉนวนกันความร้อนและแผ่นฉนวนกันความร้อนมีหลายประเภท และฉนวนกันความร้อนหลังคาแต่ละประเภทมีโครงสร้างหรือทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดจึงควรเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นฉนวนกันความร้อนประเภทใดล้วนมีจุดมุ่งหมายในการใช้งานเดียวกันคือ การเก็บรักษาพลังงานไม่ให้ถ่ายเทออกไปหรือเข้ามาภายในบริเวณที่กำหนด จึงควรมีลักษณะของฉนวนกันความร้อนที่ดีเหมือนกัน ดังนี้

  • มีค่าการนำความร้อน (k-Value) ต่ำ
  • มีค่าการต้านทานความร้อนสูง (R-Value) สูง
  • มีค่าการดูดซับน้ำ (Water Absorption) ต่ำ
  • มีความแข็งแรงสูงและน้ำหนักเบา
  • รับน้ำหนักและแรงกด (Compressive strength) ได้ดี

 

6 ประเภทแผ่นฉนวนและหลังคาฉนวนกันความร้อน

 

1. ฉนวนใยแก้ว

ฉนวนใยแก้ว (Fiberglass insulation) เป็นวัสดุฉนวนที่ทำจากใยแก้วที่ถูกสังเคราะห์มาให้เป็นเส้นใยแล้วผ่านกระบวนการอัดแน่นเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้วัสดุที่มีความหนาแน่นเพียงพอในการต้านทานความร้อนและกันเสียงได้ดี 

ฉนวนใยแก้วเหมาะสำหรับใช้ในที่ต้องการการกันความร้อน เช่น บ้านพักอาศัย, อาคารพาณิชย์, โรงงาน, ห้องประชุม, โรงแรม, โรงเรียน และสถานที่อื่น ๆ ที่ต้องการความสบายและการควบคุมอุณหภูมิภายใน วัสดุฉนวนใยแก้วสามารถใช้กับผนังภายใน, ฝ้าเพดาน, ฝาผนัง, ท่อระบายความร้อน, และโครงสร้างอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานความร้อนและกันเสียงในอาคารหรือสถานที่นั้น รวมถึงสามารถใช้เป็นวัสดุฉนวนสำหรับรถยนต์หรือยานพาหนะด้วย 

2. ฉนวนใยหิน

ฉนวนใยหิน (Rockwool insulation) เป็นแผ่นฉนวนกันความร้อนที่ผลิตจากเส้นใยหิน (Rockwool) มีคุณสมบัติทางความร้อนที่ดี สามารถป้องกันความร้อนได้ดี และคงสภาพเมื่อมีการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัสดุกันเสียงได้อีกด้วย   

ฉนวนใยหินเหมาะสำหรับสถานที่ ที่ต้องการกันความร้อนและกันเสียง เช่น อาคารสำนักงาน, โรงงาน, โรงแรม, โรงเรียน, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, บ้านพักอาศัย และสถานที่อื่น ๆ ที่ต้องการความสบายและการควบคุมอุณหภูมิภายใน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัสดุฉนวนสำหรับท่อระบายความร้อน หลังคา ฝ้าเพดาน และผนังภายในอาคารเพื่อลดการสะสมความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานความร้อนและกันเสียง

3. ฉนวน PE FOAM 

ฉนวน PE FOAM (Polyethylene Foam) เป็นวัสดุฉนวนที่ผลิตจากโพลีเอทิลีน ซึ่งเป็นวัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติทางกลและความร้อนดี มีโครงสร้างเป็นเซลล์โฟมที่มีโครงสร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือรูปทรงกลม น้ำหนักเบา เคลื่อนที่ง่ายและยืดหยุ่น   

ฉนวน PE FOAM เหมาะสำหรับใช้ในหลายสถานที่ เช่น การบรรจุภัณฑ์, อุตสาหกรรมอาหาร,  อุตสาหกรรมอาหารยา, อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, โรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์, อุตสาหกรรมอุปกรณ์กีฬา, อุตสาหกรรมอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ และหลายอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมาย

4. ฉนวน PU FOAM แบบ Semi-Closed Cell

ฉนวน PU FOAM แบบ Semi-Closed Cell เป็นวัสดุฉนวนที่ผลิตจากโพลียูรีเทนและสารตัวช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนของแก๊สในเซลล์ภายใน แต่มีโครงสร้างเซลล์เหลืองปิดบางส่วน ทำให้มีคุณสมบัติทางกลที่มีความเบาและยืดหยุ่น มันมีความต้านทานต่อความดันและแรงกดที่ดี รวมถึงสามารถดัดและตัดเป็นรูปได้ง่าย 

ฉนวน PU FOAM แบบ Semi-Closed Cell เหมาะสำหรับใช้ในหลายสถานที่ เช่น อาคารสำนักงาน, โรงงาน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า, โรงเรียน, บ้านพักอาศัย และสถานที่อื่น ๆ ที่ต้องการความสบายและการควบคุมอุณหภูมิภายใน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นวัสดุฉนวนสำหรับท่อระบายความร้อน, หลังคา, ฝ้าเพดาน, และผนังภายในอาคารเพื่อลดการสะสมความร้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านทานความร้อน

5. ฉนวน PU FOAM แบบ Closed Cell

ฉนวน PU FOAM แบบ Closed Cell เป็นวัสดุฉนวนที่ผลิตจากโพลียูรีเทนและสารตัวช่วยทำให้เกิดการหมุนเวียนของแก๊สในเซลล์ภายใน แบบโครงสร้างเซลล์ปิด ทำให้มีคุณสมบัติทางกลที่มีความต้านทานน้ำสูง และต้านต่อการแพร่กระจายของความร้อนสูง อีกทั้งมีความแข็งแรงและทนทานต่อการบิดงอ รวมถึงสามารถป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้เป็นอย่างดี

ฉนวน PU FOAM แบบ Closed Cell เหมาะสำหรับใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ, ห้องครัว, ห้องอาบน้ำ, และบริเวณที่อาจมีฝุ่นละอองหรือน้ำเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังมีความต้านทานสูงต่อการสะสมความร้อนและการสูญเสียความเย็น จึงเหมาะสำหรับใช้ในการฉนวนบ้านพัก, ห้องเย็น, ตู้เย็น, และอุปกรณ์ที่ต้องการความกันความร้อนเช่นท่อน้ำร้อนหรือท่อน้ำเย็น 

6. ฉนวนเยื่อกระดาษ

ฉนวนเยื่อกระดาษ (Paper Insulation) เป็นวัสดุฉนวนที่ผลิตจากเยื่อกระดาษที่มีความหนาและก้นที่สูงพอที่จะสร้างช่องว่างสำหรับกั้นความร้อนและเสียงได้ นอกจากนี้ฉนวนเยื่อกระดาษยังมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากผลิตจากวัตถุดิบที่มีความสามารถในการย่อยสลายได้ง่ายและไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม 

ซึ่งฉนวนเยื่อกระดาษมักถูกใช้เป็นวัสดุฉนวนในการกันความร้อนในอาคารชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะในบ้านพักอาศัย สามารถนำมาใช้กันความร้อนในผนัง, หลังคา, และพื้นอาคาร เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในให้อยู่ในระดับที่สบายตามต้องการ ฉนวนเยื่อกระดาษยังสามารถลดการสะท้อนแสงและเสียงได้บ้างเล็กน้อย

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับหลังคาฉนวนกันความร้อน

 

1. หลังคาฉนวนกันความร้อนมีกี่แบบ?

แผ่นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคามีให้เลือกหลายแบบ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและวัสดุที่ใช้ผลิตฉนวน 

  1. ฉนวนใยแก้วหรือไฟเบอร์กลาส
  2. ฉนวนใยหิน
  3. ฉนวน PE FOAM 
  4. ฉนวน PU FOAM แบบ Semi-Closed Cell
  5. ฉนวน PU FOAM แบบ Closed Cell
  6. ฉนวนเยื่อกระดาษ

2. แผ่นฉนวนกันความร้อนทํางานอย่างไร?

ตามธรรมชาติแล้ว ความร้อนจะเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงกว่าไปยังบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า แผ่นฉนวนกันความร้อนจะทำหน้าที่ชะลอการเคลื่อนที่ของความร้อน โดยวัสดุที่ใช้ทำแผ่นฉนวนกันความร้อนส่วนใหญ่จะมีรูพรุนขนาดเล็กจำนวนมาก รูพรุนเหล่านี้จะกักเก็บอากาศไว้ ความร้อนจึงไม่สามารถเคลื่อนที่ผ่านรูพรุนเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ แผ่นฉนวนกันความร้อนบางประเภท ยังเคลือบด้วยวัสดุสะท้อนความร้อน ซึ่งจะช่วยสะท้อนความร้อนไม่ให้ผ่านแผ่นฉนวนเข้าไปยังพื้นที่ด้านในได้อีกด้วย

3. แผ่นฉนวนกันความร้อนหลังคา ต้องติดตอนไหน?

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการติดแผ่นฉนวนกันความร้อนคือ ช่วงก่อสร้างอาคาร หรือ ช่วงปรับปรุงอาคารใหม่ เนื่องจากการติดตั้งในช่วงนี้จะช่วยให้ติดตั้งได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากที่สุด หากต้องการติดตั้งฉนวนกันความร้อนในอาคารที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่อาจมีความยุ่งยากมากกว่า เนื่องจากจะต้องทุบผนังหรือฝ้าเพดานเพื่อทำการติดตั้ง อาจทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และจำเป็นต้องดำเนินการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

4. ติดแผ่นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา ช่วยได้จริงหรือไม่?

การติดตั้งแผ่นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคาไม่ว่าจะเป็นโรงงาน โกดัง หรืออาคารบ้านเรือน ช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคารลงได้อย่างน้อยประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส จึงช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายได้จริง หากคุณกำลังมองหาวิธีประหยัดพลังงาน การติดตั้งแผ่นฉนวนกันความร้อนใต้หลังคา บนฝ้าเพดาน ผนัง หรือพื้น เป็นทางเลือกที่ช่วยได้

5. แผ่นฉนวนกันความร้อนมีอายุการใช้งานกี่ปี?

อายุการใช้งานของแผ่นฉนวนกันความร้อนจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วัสดุที่ใช้ทำแผ่นฉนวน สภาพแวดล้อมที่แผ่นฉนวนต้องเผชิญ และการดูแลรักษาแผ่นฉนวน โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10 ปีไปจนถึง 30 ปี ดังนั้น ควรเลือกแผ่นฉนวนกันความร้อนที่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานให้มากที่สุด

6. หลังคาฉนวนกันความร้อน แบบไหนดีสุด? 

ต้องเลือกหลังคาฉนวนกันความร้อนที่มีค่า R (Resistivity) สูง และค่า K (K-value / Conductivity) ต่ำ เท่านั้น เพื่อให้ไม่ให้ความร้อนเข้าตัวอาคารได้ หรือเข้าให้น้อยที่สุด

 

เปรียบเทียบวัสดุหลังคาฉนวนกันความร้อนแต่ละชนิด

คุณสมบัติ

ฉนวนใยแก้ว

ฉนวนใยหิน

ฉนวน PE. FOAM

ฉนวน PU. FOAM

ฉนวนเยื่อกระดาษ

1. โครงสร้างเซล (Cell Structure)

เซลเปิด 

(Open Cell)

เซลเปิด 

(Open Cell)

เซลปิด

(Closed Cell)

เซลปิด-เปิด 

(Semi–Closed Cell)

เซลปิด

(Closed Cell)

เซลเปิด 

(Open Cell)

2. ความหนาแน่น (Density)

16-32 kg./m3

24-100 kg./m3

33-50 kg./m3

32-35 kg./m3

32-35 kg./m3

38-40 kg/m3

3. ค่าการนำความร้อน (Thermal Conductivity)

0.038 W/mk.

0.038 W/mk.

0.030 W/mk.

0.024 W/mk.

0.024 W/mk.

0.034 W/mk.

4. อุณหภูมิใช้งาน (Temperature)

-20o C ถึง 200o C

-20o C ถึง 200o C

-80o C ถึง 85o C

-118o C ถึง 82o C

-118o C ถึง 82o C

-75o C ถึง 250o C

5. ความต้านทานต่อ สารเคมี

ดี

ดี

ดี

ไม่ดี

ไม่ดี

ดี

6. การซึมเข้าของน้ำ

สูงเนื่องจากเป็นเซลเปิด

สูงเนื่องจากเป็นเซลเปิด

ต่ำเนื่องจากเป็นเซลปิด

ค่อนข้างสูงเนื่องจากเนื้อบางส่วนเป็นเซลเปิด

ต่ำเนื่องจากเป็นเซลปิด

สูงเนื่องจากเป็นเซลเปิด

7. การติดไฟ (Flammability)

ติดไฟ

ติดไฟ

ติดไฟ

ติดไฟ

ติดไฟ

ติดไฟ

8. การลามไฟ

ไม่ลามไฟ

ไม่ลามไฟ

ลามไฟ

ไม่ลามไฟ แต่ไฟจะไปทั่ว

ไม่ลามไฟ

-

9. การเกิดควันพิษและ ปริมาณควัน

ปริมาณควันน้อยไม่เป็นพิษ

ปริมาณควันน้อยไม่เป็นพิษ

ปริมาณควันน้อยไม่เป็นพิษ

ปริมาณควันมากเป็นพิษ

ปริมาณควันน้อยไม่เป็นพิษ

ปริมาณควันมาก

10. ข้อจำกัดและอายุ การใช้งาน

เนื่องจากเป็นฉนวนเซลเปิดความชื้นอาจทำให้คุณสมบัติ การเป็นฉนวน ลดลงจึงต้องมีวัสดุปิดทับผิวเช่นแผ่นฟอยล์

เนื่องจากเป็นฉนวนเซลเปิดความชื้นอาจทำให้คุณสมบัติ การเป็นฉนวน ลดลงจึงต้องมีวัสดุปิดทับผิวเช่นแผ่นฟอยล์

ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติการทน ความร้อนของกาวที่ใช้ยึด และเมื่อโดนความร้อนสูงๆ อาจเกิดการหดตัวแล้วหลุดร่วงได้

เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งตัวฉนวนจะดูดซึมความชื้นทำ ให้เนื้อโฟมแตกร่อนจึงต้องมีวัสดุปิดทับป้องกันความชื้น

เมื่อใช้งานไประยะหนึ่งตัวฉนวนจะดูดซึมความชื้นทำ ให้เนื้อโฟมแตกร่อนจึงต้องมีวัสดุปิดทับป้องกันความชื้น

เนื่องจากเป็นฉนวนเซลเปิดความชื้นอาจทำให้คุณสมบัติ การเป็นฉนวน ลดลงจึงต้องมีวัสดุปิดทับผิวเช่นแผ่นฟอยล์

11.การป้องกันเสียง

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

ขึ้นอยู่กับความหนาแน่น และความหนาของฉนวนที่ใช้

MENU